คิวออกอากาศ-อ่านข่าว (ช่อง 7 สี)

คิวออกอากาศ-อ่านข่าว (ช่อง 7 สี)

เพื่อนเกษตร

(เช้าข่าว 7 สี) เวลาประมาณ 05.30 น.

ทุกวันจันทร์ - ศุกร์

-----------------------------------------------------


เกษตรสเปเชียล

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ข่าวภาคเที่ยง)

-----------------------------------------------------

ห้องข่าว 7 สี

เวลา 10.30 - 11.30 น.

ทุกวันจันทร์ - พุธ

-----------------------------------------------------

สารพันไทยแลนด์ (ออกอากาศในรายการห้องข่าว 7 สี)

เวลาประมาณ 10.30-11.30 น.

ทุกวันจันทร์-พุธ

-----------------------------------------------------

ข่าวภาคค่ำ ช่วงที่ 1

เวลาประมาณ 17.30 น.

ทุกวันอาทิตย์

-----------------------------------------------------

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

เพราะรัก...ในงานข่าว

ทำงานช่อง 7 สี ครบ 8 ปี แล้วนะครับ
ไม่น่าเชื่อ...
จะก้าวผ่านมาได้หลายปี
เหนื่อย หนัก สนุก คละเคล้ากันไป
มีแอบท้อบ้าง..
แต่ชีวิตคนเราก็แบบนี้แหละ
ต้องมีหลายรสชาติหน่อย เอาให้ครบรส ถึงจะเรียกว่า "ชีวิต"

ห่างหาย..จากการเข้ามาเขียนนานมาก
นานจนเกือบจำรหัสเข้ามา Blog ไม่ได้
มีหลายคนถาม
ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ
อยากเขียนครับ แต่เอาเวลาไปทำอย่างอื่นซะมากกว่า
ว่างปุ๊บ ก็ง่วงนอน
ไม่ก็คิดเรื่องงาน
เขียนงานดึกดื่น
เช้าอ่านข่าว
หลับเป็นตาย
ฯลฯ

ชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้

จัดระบบเวลาใหม่ดีกว่า

รออ่านนะครับ เรื่องราว ประสบการณ์ในการทำงาน 8 ปี
กำลังจะมาถ่ายทอดให้อ่านกันที่นี่

คิดถึงคนอ่านทุกท่าน จุ๊บๆ

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ชีวิตนี้...มีอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะ

"หนูว่าพี่ลองเปลี่ยนแนวสารพันไทยแลนด์
มาเป็นเรื่อง "อาชีพเสี่ยง" ดูไหมคะพี่กล้า"

คำพูดของน้องแอ้ม @AMIE_BUNNYXXME
คีย์แมนคนสำคัญ เรื่องเรตติ้งรายการข่าวทุกช่วงของช่อง 7

ในวันที่เราได้คุยกันถึงเรื่องเรตติ้ง
ช่วง "สารพันไทยแลนด์"
กราฟขึ้นบ้าง ลงบ้าง ไม่ก็ขึ้นช่วงต้น แผ่วตอนปลาย
ทั้งปรับ ทั้งเปลี่ยน สารพันรูปแบบที่ลองทำ

สุดท้ายก็ตกตะกอนความคิด
มาเจาะที่เรื่องอาชีพ
อาชีพเสี่ยง เสียว แปลก อันตรายในบ้านเรา
แต่ทั้งนี้ต้องไม่ซ้ำซ้อน...
หรือไปชนกับพี่หนุ่ม อนุวัต พี่ชายที่รักและเคารพ
สุดยอดของคนทำสกู๊ปในขณะนี้

ใส่ความเป็นตัวเองลงไป
นำเสนอในมุมมองของเรา
แต่ต้องไม่ทิ้งประเด็นหลักในเรื่องอาชีพเสี่ยง

กลับไปนอนคิดอยู่สามคืน
นั่งลิสต์รายชื่ออาชีพเสี่ยงในบ้านเรา
แต่ละอาชีพ ส่วนใหญ่เราเองยังไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสเลย
โจทย์ยาก โจทย์ใหญ่ที่ต้องขบคิดให้แตก

21-22 เมษายน 2557
ออกอากาศ "สารพันไทยแลนด์-ตามติดชีวิตกู้ภัย ตอน 1 และ 2"

เราไปถ่ายทำกันช่วงกลางคืน
ที่ "มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง"
ช่างภาพพี่บอล มนัสวี เลื่อนเจริญ

ได้รับความอนุเคราะห์อย่างดีจากพี่เล็ก  PR ป่อเต๊กตึ๊ง
ยังมีพี่อ๊อฟ PR อีกคนที่ร่วมออกตระเวนอยู่ถึงดึกดื่นด้วย




วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เลือนลางในความรู้สึก หรือชัดเจนในความทรงจำ



เขียน Blog ในวันที่สถานการณ์ทางการเมืองไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่
แต่สิ่งที่เชื่ออย่างสุดใจก็คือ
ทุกคนคงอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขโดยเร็ว

โดยเฉพาะเืดือนนี้...
เดือนธันวาคม เดือนมหามงคล
เราคงไม่อยากเห็นภาพการเสียเลือด เสียเนื้อ
การทำ้ร้ายคนไทย ด้วยคนไทยเอง

คงจะดีไม่น้อย ถ้าคนไทยจะหันหน้าเข้าหากัน
พูดคุยกันให้มาก และรักกันให้มากกว่าเดิม

..........................................................

ทำงานในตำแหน่งผู้ประกาศข่าวช่อง 7 สี ครบ 4 ปี
เมื่อวันที่ 2 พฤศิจกายน 56 ที่ผ่านมา

4 ปีที่ผ่านไปเร็วมาก
เร็วจนบางครั้ง...ทำให้บางสิ่ง
เลือนลางในความรู้สึก
ในขณะที่บางอย่าง
กลับชัดเจนในความทรงจำ

ทำงานมาครบปี ก็จะประเมินตัวเองทุกครั้ง
ปีนี้ได้ทำอะไรเพิ่มบ้าง
ปีนี้มีอะไรที่ไม่ได้ทำต่อบ้าง
(อย่างหลังนี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้)

ขณะที่ต้องแข่งขันกับตัวเองแล้ว
ยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า
ยังต้องแข่งขันกับคนอื่น เพื่อรักษาผลงานหรือเวทีไว้ด้วย

ผู้ประกาศข่าวก็ึคงคล้ายๆ นักร้องนี่แหละครับ
มีเวทีร้องเพลงเป็นของตัวเองมากเท่าไหร่
ก็เป็นผลดีกับตัวเองมากเท่านั้น

สำหรับผม...การมีเวทีใหม่ๆ ว่ายากแล้ว
แต่การรักษาเวทีเดิมที่มีอยู่ ยิ่งยากกว่าอีก

เราจะทำอย่างไร ให้รายการที่เรารับผิดชอบ
มีผู้ชมติดตามอย่างเหนียวแน่น??
เราจะทำอย่างไร ให้รายการที่เรารับผิดชอบ
น่าสนใจ? ไม่น่าเบื่อ? และมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา!!

โจทย์ที่ดูเหมือนง่าย แต่บางทีก็ทำยาก

นอกจากเกษตรสเปเชียลที่ได้รับมอบหมายให้ทำเพิ่มแล้ว
ปีนี้ยังมีช่วงใหม่ในห้องข่าว 7 สี
"สารพันไทยแลนด์"
รับช่วงต่อจาก "ศาสตร์และศิลป์"เดิม ของพี่หนูจูน สินีวรรณ
พี่จูนคนเก่ง ตีโจทย์แตก
และสร้างคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน คนดูจำได้ทั่วบ้านทั่วเมือง
แอบหนักใจพอสมควร

สารพันไทยแลนด์
จึงสร้างคอนเซ็ปต์ใหม่
สาระน่ารู้ ทุกเรื่องเมืองไทย
นำเสนอแบบเจาะลึก ที่มาที่ไปของภูมิปัญญาคนไทย

ออกอากาศครั้งแรก 2 กันยายน 56
"เมี่ยงใบชา จ.น่าน"
จนกระทั่งถึงวันนี้ รวม 10 ตอน 10 เรื่อง
จะทำให้ดีที่สุด และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นนะครับ


วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

กล้าหาญ จงหาญกล้า



"กล้าหาญ จงหาญกล้า"
เป็นคำพูดที่ผมใช้เตือนใจ
เตือนสติตัวเอง...
เมื่อไหร่ก็ตาม
ที่เกิดความกลัวขึ้นในจิตใจ

มันทำให้ผมรู้สึกกล้า....
กล้า...ที่จะทำทุกอย่าง ที่อยู่ตรงหน้าได้


ไม่ได้เขียน Blog เป็นเวลาที่ยาวนานพอสมควร
ชีวิตของการเป็นผู้ประกาศข่าว
และนักศึกษาปริญญาโทควบคู่กัน
ผมว่ามันยุ่งยาก วุ่นวาย และท้าทายไปในตัว

ความยุ่งยากจากการที่ต้องแยกแยะ
ระหว่างเรื่องงาน และเรื่องเรียน

บางวันมึนๆ จากการเรียน การสอบ
แล้วต้องมานั่งอ่านข่าว
หน้าตาจะมึนๆ อึน ๆ ตามไปด้วย
อ่านข่าวเสร็จ...
แม่เคยผมถามว่า "วันนี้เรียนหนักเหรอลูก?"
หรือไม่ก็บอกว่า...
"อย่าซีเรียสเรื่องเรียนมากเกินไปนะลูก
หน้าตาวันนี้ดูไม่ได้เลย"

ความวุ่นวายจากการที่ต้องจัดสรรเวลา

ไหนจะสอบกลางภาค ปลายภาค
ไหนจะทำรายงานเดี่ยว รายงานกลุ่ม
ไปดูงานต่างประเทศ กิจกรรมมหาวิทยาลัย
การทำสารนิพนธ์ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง
แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันคือความท้าทาย
ที่เมื่อไหร่ก็ตามเราฝ่าฟันมันไปได้
มันคือความสำเร็จ ที่น่าภาคภูมิใจที่สุด

คิดซะว่ามันคือความท้าทายของชีวิตละกันครับ

----------------------------

สงกรานต์ปีนี้มาถึงเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะหลังจากที่อุ่นใจอยู่ในทีว่า
ปีนี้ไม่ใช่ปีชง คงมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง
ไม่มากก็น้อย....

แต่เพื่อความปลอดภัย
ตระเวนทำบุญไปทั่ว

ทำบุญยังไม่ทันหายเหนื่อย
บรรยากาศปีใหม่ยังไม่ทันจางหาย
ประเพณีสงกรานต์ ปีใหม่ไทยมาถึงอีกแล้ว!!
เลื่อนลงไปดู blog ที่ผมเขียน
เพิ่งจะเขียนเรื่องสงกรานต์ไป

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่เคยคิดถึงเวลา
มันมักจะมาถึงเร็วเสมอ

สงกรานต์ปีนี้มีตัวเลือกมาให้
ระหว่างไปรายงานที่...
"ถนนข้าวสาร" กับ "ถนนสีลม"
ปีก่อนก็ไปถนนข้าวสารมาแล้ว
ปีนี้สีลมก็คงจะบรรยากาศเหมือนเดิม
อยากไปต่างจังหวัดบ้าง

ต่างจังหวัดกับกรุงเทพ...
ถึงแม้ความสนุกสนานอาจจะเหมือนกัน
แต่วัฒนธรรม ประเพณีดีๆ ยังมีให้เห็น

เลยไปต่อรองกับน้องเกด ศิริกุล
ขอไปที่เชียงใหม่บ้างได้ไหม
ขอบคุณน้องเกดมากนะครับที่ยอมเสียสละให้พี่ไป
^____^

สงกรานต์ปีนี้เดินทางตั้งแต่ 11 เม.ย.ตอนเย็น
ไปถึงก็จัดแจงหาร้านยืมชุดแบบเหนือมาใส่พรุ่งนี้
ขอบคุณร้าน "ไชยา" ที่เชียงใหม่ไนท์บาร์ซ่าด้วยนะครับ
ให้ความอนุเคราะห์ชุดหล่อๆ

วันที่ 12 ตื่นแต่เช้า ตี 4
มีทำบุญที่ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
ผู้ก่อตั้งเมืองเจียงใหม่
เจอช่อง 9 มาออกอากาศรายการสดแต่เช้า
คุยโขมงข่าวเช้าหรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่ชอบพิธีกรสองท่านนี้มาก
สไตล์การเล่าข่าวที่เหมือนวิทยุ แต่ไม่น่าเบื่อ
จึงแอบมองด้วยความชื่นชมอยู่ไกลๆ :)

เช้านี้ต้องมาเก็บภาพบรรยากาศการทำบุญ
และเก็บเสียงสัมภาษณ์คนมาร่วมงาน
มาพร้อมกับพี่ตาล สุภาพร ทองไพฑูรย์
ส่วนใหญ่ก็จะใส่ชุดแบบเหนือๆ
ถือข้าวสารอาหารแห้ง มาร่วมทำบุญด้วย
มีต่างชาติทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น จีน ฯ
มานั่งพนมมือทำบุญกับเค้าด้วย

อยากให้คนไทย เด็กไทย เยาวชนไทย
มาเห็นภาพเหล่านี้บ้างจัง

ต่างชาติ ตื่นแต่เช้า เข้าวัดทำบุญ
เด็กบางคนเข้าผับ หลับสลบถึงเช้า วัดไม่เคยเข้า

วันนี้ทั้งวันรายงาน 2 เบรก
เบรกแรก 11.30 น.
ยืนสแตนบายรอเข้าข่าวกลางแดดจ้า
ตั้งแต่ 11.00 น.
รู้สึกวืดๆ เหมือนจะเป็นลม
คิดในใจว่า...
ถ้าจะเป็นลม ขอให้เป็นตอนรายงานเสร็จแล้ว
อย่าเป็นตอนเข้าหน้ารายงานเลย
อายคนทั้งประเทศ

สุดท้ายก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ชุดชาวเหนือที่ยืมมา
ช่างร้อนได้ใจเหลือเกิน
เหงื่อเต็มเสื้อ แทบไม่กล้าเอาไปคืน

เบรกสุดท้ายของวัน 17.00 น.
คนเริ่มคึกคัก
รายงานไปโดนปืนฉีดน้ำกระหน่ำ
ฉีดเข้าตา หู จมูก ปาก หน้า หลัง
บทข่าว เปื่อยจนยุ่ยๆ
หมึกเลอะ จนอ่านแทบไม่ได้
พยายามอ่านไป ดำน้ำไป แบบทุลักทุเล

หลายคนที่ไปรายงานข่าวสงกรานต์
หนีไม่พ้นโดนสาดน้ำแน่ๆ ครับ
นอกจากจะโดนน้ำฉีดเข้าปากเข้าตาตอนอ่านข่าว
ทำให้อ่านข่าวได้ลำบากแล้ว

ที่น่ากลัว...
คือการกลัวอุปกรณ์โดนน้ำ จนไฟช๊อต เสียหาย
และที่น่ากลัวยิ่งกว่า...
คือการที่ผู้ประกาศโดนไฟดูด!!

ผมโดนมาแล้วครับ
สนุกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
มือชา ปากชา อะดรีนาลีนหลั่งอย่างแรง

นาทีนั้นต้องเลือกระหว่าง..
ถือไมค์ไว้เหมือนเดิม กับโยนไมค์ทิ้ง

สัญชาตญาตของคนเวลาโดนไฟดูด
ต้องชักมือออก หรือโยนสิ่งนั้นทิ้ง

แต่คงเอามาใช้กับผู้ประกาศไม่ได้นะครับ
อดทนให้ได้มากที่สุด
ถือว่าชนะในสามโลกแล้วหล่ะครับ

ตอนรายงานมีคนใช้ปืนฉีดน้ำ ฉีดมาโดนไมค์
สักพักไฟในไมค์เริ่มทำงาน
มือเริ่มชา แต่ยังพอทนได้
ตอนจบนี่สิครับ...
เผลอเอาไมค์มาจ่อปาก
เต็ม เต็ม !!!
ปากชาทั้งแถบ (ยิ่งปากห้อยๆ อยู่)

ถ้ากล้องซูมเข้ามาใกล้ๆ ได้
คงเห็นปากผมกระตุกหลายครั้งครับ 555

13 เมษายน
ผิวเริ่มแสบ ๆ ผลจากการยืนรายงานกลางแดด
และการออกไปเล่นน้ำท่ามกลางแดดร้อน

ดำไม่กลัว แต่ผมกลัวจะไม่สบาย
กินพาราวันละสองเม็ด
กลับที่พักทีไร ปวดหัวตุบๆ ทุกที

ตื่นตี 4 อีกเหมือนเดิม
วันนี้ต้องไปทำข่าวพิธีทำบุญเมืองเจียงใหม่
ที่ข่วงประตูเมือง คนแน่นขนัด
เช้าติดกันสองวัน สมองเริ่มประมวลผลช้าลง

เบรกแรกให้พี่ตาลรายงานก่อน
กะว่าสลับกันรายงานจะได้ไม่เหนื่อย
เบรกสองเตรียมตัวเต็มที่ ปะแป้ง สะพายปืนไปยืนรอ
พร้อมรายงานบรรยากาศที่เริ่มคึกคักตอนใกล้เที่ยง
ปรากฎว่า เบรกนี้ที่สถานีไม่เอา
เดินคอตก หยิบปืนฉีดน้ำไปเล่นต่อแก้เซ็ง

เบรกเย็นของวันนี้
ฝนเริ่มตั้งเค้ามืดมาแต่ไกล

หลายคนบอกว่า
ทุกปี..เวลามีขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์
และพระพุทธรูปองค์สำคัญ เข้าวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
ฝนจะตกทุกปี

และฝนก็ตกจริงๆ ด้วยครับ
ตกตรงจุดที่มีขบวนแห่ บริเวณวัด
จุดอื่นไกล ๆ แห้งสนิท

เรื่องบางเรื่องอธิบายได้ยาก
ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เนาะ

ฝนตกหนักมาก
จนผู้ประกาศต้องยืนตากฝน รายงานบรรยากาศสงกรานต์
ไมค์ไฟรั่วอีกตามเคย ดูดปากห้อยๆ ของผมเต็มๆ
แถมโดนฝน หัวลีบๆ ลู่ๆ เหมือนลูกวัวเกิดใหม่
หาความหล่อไม่มีเลย T_T

14-15 เมษายน
เริ่มชินตากับภาพนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำ
เริ่มหูอื้อ เพราะฟังเสียงดนตรีดังๆ ทุกวัน
5 เวทีอยู่ติดกันแค่ 3 ก้าวถึง
เสียงตีกันจนไม่รู้จะโยกเข้าจังหวะเวทีไหนดี 555

เริ่มเพลียแดด เป็นหมาหงอย
เริ่มไม่สนุก...
เดินหงอยๆ ไปรอสแตนบายรายงาน
แต่พอได้ยินเสียงคำสั่ง "ผู้ประกาศพร้อม!!"
หน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
ต้องทำตัวร่าเริง สนุกสนานเข้ากับบรรยากาศทันที

แต่ถึงยังไงสงกรานต์ที่เชียงใหม่
ผมก็ยังอยากมารายงานอีกอยู่ดี
เสน่ห์เมืองล้านนา วัดวาสวยงาม

ใครยังไม่เคยมา ปีหน้าลองมานะครับ
อาจจะเห็นผู้ประกาศหน้ากระรอกๆ ยืนรายงานอยู่

16 เมษายน ขึ้นเครื่อง เดินทางกลับกทม.
และนั่งรถข่าว ไปรายงานวันไหลที่บางแสนต่อ
เป็นวันที่ชาวบางแสนเล่นน้ำสงกรานต์กันต่อเนื่อง
ถนนทั้งเส้นเต็มไปด้วยรถกระบะ และผู้คนออกมาเล่นน้ำ

รถติดยาวเหยียด

ออกเดินทางบ่ายสอง
ถึงโรงแรมที่บางแสนทุ่มนิดๆ
5 ชั่วโมงมาราธอน

17 เมษายน
ห้องข่าว 7 สี รายงานสดบรรยากาศวันไหล
ตื่นแต่เช้าไปทำสกู๊ปสะพานปลาอ่างศิลา

ฝนตกแต่เช้า...ชีวิตเปียกปอน

ถึงฝนจะตก แดดจะออก พายุจะเข้า
สกู๊ปยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ

เดินตากฝนกับเหมือนฝัน
เที่ยวชมสะพานปลา จนตัวเปียก
ได้ของแถมเป็นปลากะพงจากพ่อค้าใจดี 2 ตัว
น่าจะประมาณ 2 กิโลกว่าๆ
เกือบ 500 บาทเลยนะครับนั่น

ห้องข่าว 7 สี
เสียงคำสั่งในหูตีกันยังกะเสียงเพลงเวทีสงกรานต์เชียงใหม่
อ่านข่าวไป ต้องควบคุมสติไป
แยกสมาธิให้ออกว่า
ระหว่างที่เค้าด่าคนอื่น กับออกคำสั่งเราอันไหน

สติ สมาธิ ปัญญา

3 คำ ที่ต้องเตือนตัวเองตลอดเวลา
(ไว้มีโอกาสจะมาเล่าถึงบรรยากาศ
เวลาอ่านข่าวในโอกาสต่างๆ ให้อ่านครับ)

สงกรานต์ปีนี้...
จึงอิ่มเอมด้วยการเดินทาง
และแสงแดดที่แผดเผา
ได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง

ปีหน้าขอไปอีกนะครับ ^___^

----------------------------

เดือนนี้ "เกษตรสเปเชียล"
คอลัมน์ใหม่เกี่ยวกับการทำเกษตร
เนื้อหาไม่หนักมาก พิธีกรหล่อ 555 (เข้าข้างตัวเองมาก)
ออกอากาศไป 2 ตอนแล้ว

เดือนหน้า (พฤษภาคม) มีวันหยุดอีกหลายวัน
ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ^___^
ในข่าวภาคเที่ยง ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์

กล้าหาญ จงหาญกล้า
ป่ะ พร้อมลุย และพร้อมพัฒนาตนเอง สู้ๆ นะครับ

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บนท้องฟ้า ไม่มีอะไรแน่นอน...

เมษายนที่ผ่านมา
เป็นอีกปีที่ได้รายงานข่าวสงกรานต์

ตอนแรกก็รอลุ้น...
ว่าจะได้รายงานที่ถนนข้าวสารเหมือนเดิมอีกไหม

ปรากฎว่าปีนี้...
ได้รายงานบนเฮลิคอปเตอร์
เหยี่ยวข่าว 7 สี

เป็นครั้งแรก
ที่มีการรายงานสงกรานต์จากมุมสูง

แค่คิด....ก็ร้อนแล้วหล่ะครับ 555++
อยู่บนฮ. ที่มีแต่กระจกใสรอบด้าน
แดดกลางวัน ช่วงเมษายน
แถมบินอยู่บนฟ้า
ไม่มีร่มเงาให้หลบ
ดำกลับไปแน่ ๆ

คิดในใจว่า...
อย่างน้อยก็ถือว่ามาอาบแดดละกัน
ใช้เวลาอีกซักสองสามเดือน
เดี๋ยวก็ขาวเหมือนเดิม 55

ก็ได้แต่คิดแหละครับ
เพราะพอถึงเวลาทำงานจริง
แทบจะไม่มีเวลาคิดเรื่องแดดร้อน

วันแรก...
13 เมษายน
อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่

ถึงแม้จะอยู่น่าน
แต่ผมก็ไม่เคยมาเที่ยงสงกรานต์เชียงใหม่ซักที

ผู้ประกาศภาคพื้นข้างล่าง
เป็นน้องเกด ศิริกุล
ใส่ชุดล้านนา สวยแจ่มเลยทีเดียว

ส่วนผมน่ะเหรอครับ
ใส่เสื้อม่อฮ่อม แขวนพวงมาลัยดอกรัก
ปะแป้งหน้าขาว ๆ
ดูตัวเองแล้ว อืม...หน้าตาบ้าน ๆ ดีจังแฮะ 55

เชียงใหม่ ประตูท่าแพ รอบคูเมือง
คนเล่นน้ำสงกรานต์เยอะมาก
(ดูรูปในเฟสบุ๊ก อัลบั้มสงกรานต์เชียงใหม่ได้)

ขึ้นบินเก็บภาพบรรยากาศทำบุญแต่เช้า
โชคดีอากาศยังไม่ร้อน
แล้วก็เตรียมรายงานสดตอนข่าวเที่ยง

วันนี้บินขึ้นบินลงหลายรอบ
รายงานข่าว 1 ครั้งต้องบิน 2 ครั้ง
ครั้งแรกเก็บบรรยากาศ
ครั้งที่ 2 รายงานสด

ตอนบ่ายไม่ต้องพูดถึงครับ
ร้อนจนแทบอยากจะลงไปเล่นน้ำสงกรานต์ด้วย

จำได้ว่าที่เชียงใหม่ขึ้นบินหลายรอบ
ตอนจะรายงานสด ก็มีอุปสรรคเยอะมาก
สัญญาณภาพ สัญญาณเสียง
เวลาไม่ทัน ฯลฯ

มีเบรกนึง ภาพไม่พร้อม
เลยต้องบรรยายสด
คนที่อยู่บนที่สูง ก็จะเห็นแต่ภาพคนเล่นน้ำ
รถติดเป็นแถวยาว บอกได้แค่นี้
ส่วนชื่อถนน หรือข้างล่างเกิดอะไรขึ้นจะไม่รู้เลย

วันนั้นก็พยายามดำน้ำไป
เห็นสถานการณ์ บรรยากาศเป็นอย่างไร พูดหมด

แต่พอหลังจากที่รายงานเสร็จ
อดภูมิใจไม่ได้ว่า
ก็รายงานได้นะ ชัยอนันต์ 555
อาจจะมีตะกุกตะกัก คิดคำพูดไม่ออกบ้าง

แต่ในสถานการณ์ที่มีคำสั่งว่า
"บรรยายภาพสดเลย"
การพยายามเอาตัวรอด
มันจะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

วันที่สอง
14 เมษายน
อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น

อากาศร้อนพอ ๆ กับที่เชียงใหม่
และคนก็เยอะพอ ๆ กัน
โดยเฉพาะที่ถนนข้าวเหนียว

"ถนนไร้แอลกอฮอล์"
ป้ายคัตเอาท์อันใหญ่เขียนไว้
แต่เข้าไปในซอยไม่กี่เมตร
ร้าน...เพียบ ชง...มือเป็นระวิง

เลยไม่เข้าใจว่า
จะรณรงค์เพื่ออะไร

สงกรานต์ไร้แอลกอฮอล์
คงอีกนานกว่าจะเกิดขึ้นจริง

ผู้ประกาศภาคพื้น
เป็นกฤษดา นวลมี
เป็นคนที่จำได้และลืมได้ ในชั่วขณะ
5555+++
เพราะอะไรเดี๋ยวรออ่านตอนท้ายครับ

สถานการณ์ที่ขอนแก่น
มีเรื่องให้ตื่นเต้น ไม่แพ้ที่เชียงใหม่
มอนิเตอร์ไม่ติด เทปที่ถ่ายมาเล่นไม่ได้ ฯ

สงสัยชีวิตจะมีแต่อุปสรรคให้ฝ่าฟัน อิอิ

อยู่ขอนแก่น 2 วัน
ตอนเย็นหลังจากรายงานในข่าวค่ำ 1 เสร็จ
เลยขอลงไปเล่นน้ำสงกรานต์กะเค้าบ้าง

กลางคืน 15 เมษายน
เดินทางต่อ ไปโคราช
เพื่อรายงานสถานการณ์
จราจรขาเข้ากรุงเทพฯ

มาถึงโคราชตอน 4 ทุ่มกว่า
พักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จำชื่อไม่ได้
ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง
แต่ก็นอนไม่หลับ โรงแรมเก่าพอควร
รู้สึกกลัวผี 555

16 เมษายน
รายงานจราจร ลำตะคอง

ฝนตั้งเค้าจะตกหนัก...
ตรงจุดที่จะรายงานพอดี
คิดในใจว่าจะได้รายงานไหมหว่า

ขึ้นบินเก็บภาพบรรยากาศ
พี่เอ็ม (ช่างภาพ) ถ่ายภาพและตัดต่อเสร็จแบบเฉียดฉิว
เพราะพอขึ้นบิน ก็พบอุปสรรคหลายอย่าง
มอนิเตอร์ชอบมาติด ๆ ดับ ๆ ตอนรายงานจริง

ทั้งต้องบรรยายสด ด้นสด
สุดท้ายพอต้องโยนกลับผู้ประกาศที่อยู่ข้างล่าง

ช่วงนี้กลับไปที่คุณ......
...................................
...................................

เคยเป็นไหมครับ??!!
จู่ ๆ หัวสมองก็เกิดความว่างเปล่าขึ้นมาชั่วขณะ
คิดในใจว่า
"ไอ้คนที่มันอยู่ข้างล่างชื่ออะไรหว่า???"

พยายามคิดหลายรอบ แต่ก็คิดไม่ออก
เลยได้แต่ยิ้มให้กล้องอย่างเดียว
ภาพรอยยิ้มวันนั้น ถ้าใครได้มีโอกาสเห็น
เป็นรอยยิ้มแบบคิดไม่ออก
เอ๋อ เด๋อ เก้อ มึน อึน งง

ผ่านไปหลายอึดใจ มีเสียงตะโกนบอกในหูว่า
"กฤษดา"
เท่านั้นแหละครับ เหมือนเสียงแห่งสวรรค์
แต่มันก็ไม่ทันการณ์แล้ว...
เพราะภาพตัดลงไปข้างล่างเรียบร้อย

กลับมาที่ช่อง
ก็เลยโดนล้อไปหลายวัน ว่าคิดออกหรือยังคนนั้นชื่ออะไร
55555+++
คงจำไปอีกนาน

19 เมษายน
สงกรานต์วันไหลพัทยา
เมฆสวย ฟ้าใส และคนมหาศาล

สงกรานต์ปีนี้จึงเป็นปีที่ประทับใจมาก
ถึงจะดำกลับมา
แต่ก็คุ้มค่า กับเทศกาลดี ๆ ครับ

...............................

บนท้องฟ้า ไม่มีอะไรแน่นอน
ถ้ามองจากตรงนี้

เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง

อาจจะมีฝน ก่อเป็นพายุ
หรือลมลอยปลิว อยู่แค่นั้น

สุขที่เคยเดินทาง ตามหามานาน

ไม่ได้ไกลแค่ไหน
อยู่แค่นี้เอง

(ร่มสีเทา : วัชราวลี)

ความสุขของแต่ละคน
อาจจะไม่เหมือนกัน

ความสุขของคนบางคน
อาจจะได้กินอิ่ม นอนหลับ

ในขณะที่ความสุขของอีกคน
ขอแค่ให้คนข้าง ๆ ...
ได้กินอิ่ม นอนหลับ

ในสังคมแห่งการแก่งแย่ง แข่งขัน
ไม่แข่งขันทางตรง ก็ทางอ้อม

ไม่ได้แข่งกับคนอื่น
ก็แข่งกับตัวเอง

เราต่างไขว่คว้าหาความสุขใส่ตัว

วันนึง ผมบอกกับแม่ว่า
จะซื้อคอนโดแล้วนะ เวลาพ่อแม่มากรุงเทพฯ
จะได้อยู่สบาย ๆ ไม่ต้องแออัด

แม่บอกว่า
แม่ไม่ลำบาก นาน ๆ มาเที่ยวทีนึง
อยู่มากสุดก็แค่ 5 วัน
มีความสุขอยู่ 5 วัน

แต่ในขณะที่ลูก
ต้องทนทำงาน เก็บเงินจ่ายให้แบงค์ 30 ปี
แม่ว่าอยู่แบบไม่มีหนี้สินน่าจะดีกว่า

การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

ถึงแม้ข้อดีของการซื้อคอนโด
จะมีอยู่เป็นร้อยแปดข้อ

แต่การตื่นมาขณะที่ต้องจ่ายหนี้ทุกเดือน
กับตื่นมาทำงานแบบธรรมดา โดยไม่มีหนี้

ผมก็ขอเลือกอย่างหลังละกัน

ไม่มีบ้านที่กรุงเทพฯ
ผมก็มีบ้านที่น่าน

แม่บอกว่า...
อาชีพที่ลูกทำอยู่ ไม่มีอะไรแน่นอน
วันนึงถ้าลูกเบื่อ และไปบวชตลอดชีวิต
เหมือนพระเจสัน ยัง
(แม่ผมเกาะติดข่าวทุกเรื่อง 555)
จะทำยังไง...

ผมเคยมีหนี้ก้อนโต
รู้ดีว่า การทำงานแบบนับเดือนเพื่อจ่ายหนี้ให้หมด
มันทั้งทุกข์ และทรมาน

ถึงใครจะบอกว่า ผมคิดผิด
ผมก็ขออยู่อย่างพอเพียง "เหมือนที่แม่บอกละกัน"

...............................

ปี 2555
ผ่านไป 6 เดือนแล้ว

มีเวลาเหลืออีก 6 เดือน
สำหรับการทำงานในปีนี้

ความคาดหวังจากการทำงานทุกชิ้น
ขอเพียงคนดูพึงพอใจ และเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ
ที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอ

ยังไงผมจะทำให้เต็มที่นะครับ
กลางปีที่เหลือ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ

เอาใจช่วยในทุก ๆ เรื่องนะครับ

อย่าไปยึด อย่าไปถือ
อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ
ตลอดชีวิต ต้องการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร
จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน
ก็อยู่ที่จะมอง.....
^____^

เวลาท้อ ๆ มองไปบนฟ้านะครับ
แป้บเดียวก็จะสว่าง

ว่าแต่...ฝนจะตกอีกแล้วสิ
ขอกางร่มสีเทา กลับก่อนนะครับ^^

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เดือนแห่งรัก

เคยสังเกตกันบ้างไหมครับ...
ว่าทำไมเดือนแห่งความรัก

เดือนที่หลายคนมองว่ามีความสำคัญกับหัวใจ
เดือนที่ดอกกุหลาบแพงเป็นเท่าตัว
และเดือนที่คนบางคนได้บอกรักกันแบบหวานซึ้ง

มีไม่ถึง 30 วัน...

บางปีมี 28 วัน
ดีหน่อย ปีนี้มี 29 วัน

อายุของความรัก มันช่างสั้นนัก :(

จำนวนวันของเดือนแห่งความรัก
อาจบอกอะไรได้เป็นนัย ๆ ว่า
ความรักไม่อาจอยู่กับเราได้ยืดยาว

การยึดถือความรักเป็นที่ตั้ง
เมื่อผ่านพ้นห้วงแห่งความรักไปแล้ว
เราจึงต้องผจญอยู่กับเดือนไร้รักไปอีกตั้ง 11 เดือน
กว่าจะวนมาเดือนนี้อีกรอบ

ผมก็ไม่รู้หรอกว่า...
เดือนแห่งความรักมีอิทธิพลกับผมมากแค่ไหน

คิดง่าย ๆ เป็นเดือน ๆ นึง
ที่ทำงานแป้บเดียว เงินเดือนก็ออกแล้ว

ทำงานยังไม่ทันจะเหนื่อย
เงินในกระเป๋าตังค์ยังใช้ไม่หมด
เงินเดือน ๆ ใหม่มาอีกละ

อย่างหลังนี่โกหกทั้งเพครับ
เพราะเงินออกเร็วก็หมดเร็ว
เป็นไปตามอุปสงค์อุปทาน 555

เดือนแห่งรักนี้
มีคนแต่งงานกันหลายคู่

เลิกกันไปหลายคู่ก็มี...

ที่รักกันเดือนนี้ คงดีไม่น้อย
แต่ที่เลิกกันเดือนนี้ คงจำได้ไม่ลืม
มาเลิกอะไรกันเดือนนี้หว่า

กุมภาพันธ์ตอนสมัยเรียนมัธยมต้น
พอถึงวันวาเลนไทน์
ใครไม่มีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจแปะเสื้อ
มันน่าอายนิด ๆ
ผมยังเคยขอแกมบังคับให้เพื่อนติดให้เลย 555
หลัง ๆ ซื้อมาติดให้ตัวเอง ไม่ต้องง้อใคร

กุมภาพันธ์ตอนสมัยเรียนมัธยมปลาย
พอถึงวาเลนไทน์
ดอกกุหลาบในโรงเรียนขายแพงมาก
ดอกละ 5 บาท ขายตั้ง 20 บาท
แล้วพอใครถือดอกกุหลาบซักดอกนึง
ทุกสายตาจะมองมาที่เราหมด
(ใครจะรู้...ซื้อกุหลาบให้ตัวเอง 555)

กุมภาพันธ์ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
พอถึงวาเลนไทน์
ก็วันธรรมดา ๆ วันนึง
ไม่หือ ไม่อือกับวันนี้
หัวใจคงชินและชาไปแล้ว

แป้บเดียว ก็หมดเดือน
ความรัก มาเร็วไปเร็ว อายุสั้นเหมือนจำนวนวันที่มี

กุมภาพันธ์ตอนสมัยทำงาน
พอถึงวาเลนไทน์
ยิ่งแย่กว่าเดิม ทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น
มีอะไรให้คิดมากกว่าการต้องอยู่กับความรัก

สำคัญกับผมหน่อยก็ตรงที่ว่า
วาเลนไทน์ จะทำข่าวเกษตรกรปลูกกุหลาบในแง่มุมไหนดี

เวลาเปลี่ยน ความสำคัญของวันก็เปลี่ยนตาม

ปีนี้ผมพูดปิดท้ายในรายการ "ตามทันเกษตร" ว่า
"บอกรัก คนที่คุณรักกันไปแล้ว
ก็อย่าลืมรักคนใกล้ตัวของคุณ
นั่นก็คือ คุณพ่อและคุณแม่
ที่เป็นรักแท้ และยั่งยืนตลอดไปของเรา"

หลายคนบอกผมเน่า
555 ยอมรับครับว่าเน่า
แต่บนความเน่าที่ว่า...
รักของพ่อกับแม่ก็ไม่เคยนับเป็นจำนวนวันให้เห็น

ท่านรักเราทุกวัน และไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ว่างเว้นจากการเขียนต่อเนื่องของเดือนแห่งรักไปนาน
จนเข้าสู่เดือนแห่งร้อน
กลับมาอีกครั้ง อารมณ์เลยไม่ต่อเนื่อง
จึงขอจบบทความเดือนแห่งรักไว้เพียงประการ ฉะนี้นะครับ

^_______________^

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ต้นปี ต้นเรื่อง

ช่วงนี้มีน้อง ๆ นักเรียน
กับน้อง ๆ นักศึกษาหลายที่
เข้ามาขอสัมภาษณ์และพูดคุย
ประเด็นการเป็นผู้ประกาศข่าว

แต่ละคนก็มีประเด็นมาสอบถามแตกต่างกันออกไป
ตามที่อาจารย์จะกำหนดมาให้อีกที

ไม่ว่าจะเป็น...
-เส้นทางกว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว
-แรงบันดาลใจในการทำงาน
-ความยากง่ายของการเป็นผู้ประกาศข่าว
-การวางตัว
-จรรยาบรรณสื่อมวลชน
-ปัญหาที่เจอตอนอ่านข่าว
ฯลฯ

จะว่าไปแล้ว
อาชีพ "ผู้ประกาศข่าว"
ก็เป็นอีกอาชีพที่เด็กหลายคนฝันใฝ่
(รวมทั้งตัวผมเองด้วย 555)

แต่ก็แปลกใจว่า
ผลสำรวจอาชีพที่เด็กอยากทำออกมาทีไร
อาชีพผู้ประกาศ ไม่ค่อยอยู่อันดับต้น ๆ ซักที
ไปหลุดอยู่อันดับที่เท่าไหร่
ใครรู้ช่วยบอกทีครับ

เคยย้อนถามกลับน้อง ๆ ว่า
"มีใครอยากเป็นผู้ประกาศข่าวบ้าง??"
ไม่ก้มหน้าอายม้วนต้วน ก็นิ่งเงียบ
ดีหน่อยก็ส่งสายตามาให้พร้อมกับรอยยิ้ม
ให้เราตีความเอาเองว่า อยากเป็นไหม

พี่อ่านใจน้องไม่ออกนะครับบบบบ อิอิ :)

การเปิดเผยความในใจให้ใครรู้
โดยเฉพาะความจริงในใจ...
...เป็นเรื่องยาก ที่ไม่อยากเปิดเผย
คงจะเป็นเรื่องจริงที่สุด

แต่พี่ก็อยากบอกน้องว่า
การบอกว่า "อยากเป็นผู้ประกาศข่าว"
ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร
พี่เอาใจช่วยนะครับ สู้ ๆ

ส่วนถ้าอยากรู้ว่า...
ที่ผ่านมา พี่เจออะไรมาบ้าง
ลองไปอ่าน Blog ของพี่ย้อนหลังดูได้ครับ :)

...

เริ่มต้นปีมังกรน้ำ 2555
ด้วยปีที่เพิ่งรู้ตัวว่า เป็นปีชง
นั่งอ่านข่าว ปีที่ชงปีนี้มีปี...
อ้าว... มะแม มาได้ไง 55

พอใครบอกว่าเป็นปีชง
จิตจะตกทันที ว่าไหมครับ
ใจจะอยู่ที่วัดทันที
มีเวลาหน่อย ก็ขอให้ได้เข้าวัดทำบุญ

ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า
ปีชง เราจะเจอเรื่องร้าย ๆ จริงไหม

ต้นปีเจ็บคอ เสียงหาย ต้องไปให้หมอฉีดยา
หลายคนบอกว่า เห็นมะ...
ปีชงต้องเข้าโรงหมอ

ปีชงนี่...
มีผลกับจิตใจจริง ๆ
ดูอย่างปีที่แล้ว ไม่ชง
สบายใจโคตรโคตร

อดไม่ได้ที่จะลองคลิกไปอ่านดวงปีเกิดของตัวเอง
เท่าที่จำได้คร่าว ๆ ครับ

ดวงสำหรับผู้ที่เกิดปีมะแม ในปี 55
การเงิน...
หลายเดือนของปีนี้ต้องระวังเรื่องการเงินให้ดี
ที่เคยมีรายรับจำนวนมาก จะเริ่มสะดุด
อย่าให้ใครยืมเงิน หรือลงทุนเด็ดขาด

การงาน...
การงานปีนี้จะเจออุปสรรคมากมาย
ต้องต่อสู้ ดิ้นรนมากกว่าเคย
งานจะหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า

ความรัก...
ความรักปีนี้ ไม่ค่อยสมหวังสำหรับปีมะแม
สำหรับคนมีคู่จะเกิดการเข้าใจผิด

นี่แค่จำได้คร่าว ๆ นะครับ
ไม่รู้เป็นเหมือนผมไหม
ไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ลบหลู่ แค่จิตตกเล็กน้อย
ถ้าอ่านแล้วดี ก็เข้าข้างตัวเองว่าดี ๆ ๆ
ถ้าอ่านแล้วไม่ค่อยดีแบบนี้
ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร

ปีที่ผ่านมาเจออะไรมาเยอะแยะไปหมด


การเงิน...
ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะมีรายได้เยอะอะไร
เก็บหอมรอมริบไว้ ก็คงพอจะช่วยได้บ้าง
ไม่ฟุ่มเฟือย วางแผนการใช้เงินดี ๆ

การงาน...
งานจะหนัก จะเหนื่อยกว่านี้กี่เท่า
พร้อมสู้เสมอ

"งานหนักไม่เคยฆ่าคน"

จะกี่อุปสรรคก็มาเหอะ พร้อมสู้

ความรัก...
ไม่เคยคาดหวัง
ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น
จะสมหวังหรือไม่สมหวัง ไม่เป็นไร
ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง

นี่แหละครับวิธีคิดของผม
คือถ้าอ่านแล้วปีนี้ดี ก็จะยิ้มแฉ่ง
แต่ถ้าอ่านแล้วแย่ ๆ ก็ยิ้มสู้

เพราะต่อให้เป็นวันแย่ ๆ
ก็ยังมีอะไรดี ๆ
ซ่อนอยู่เสมอ

ปีชง ปีมังกร พร้อมมมมม!!!

...

เห็นในเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บ
ผู้คนที่เป็นสมาชิกเว็บถกเถียงกัน

มีทั้งตั้งกระทู้ ติ ชม ด่า กระแนะกระแหน
ตั้งกระทู้เปรียบเทียบ ช่องน้อยสี กับมากสี

จนจะกลายเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวก
แฟนคลับใคร แฟนคลับมัน
ช่องนั้นดีกว่า ช่องนี้ดีกว่า

บางทีก็นึกขำ
เป็นกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ

ละครล้าหลัง
ข่าว ฉากไม่สวย
ผู้ประกาศไม่หล่อ ไม่สวย
ปฏิทินห่วย ใช้อะไรคิด ฯลฯ

นานาจิตตังเนาะ

สื่อออนไลน์...
บางครั้งก็เป็นกระจกชั้นดี
แต่บางทีก็เป็นมีดที่บั่นทอนจิตใจ

เส้นบาง ๆ ที่ขวางกั้นอยู่
ระหว่างคำว่า "อคติ" กับ "เปิดกว้าง"

เจอกระทู้แบบนี้ทีไรผมอยากจะบอกว่า
ผมเองอยู่ช่อง 7 รักช่อง 7 รักองค์กรของตัวเอง
แต่ก็ไม่ได้ตั้งมั่นถือมั่น และยึดถือตนเองเป็นหลัก

เพราะเราเอง ทำรายการหรืออ่านข่าว
เราก็ยังคิดว่ายังทำได้ไม่ดี ต้องพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ

ไม่เคยยึดติดว่าต้องช่อง 7 เป็นที่ 1
ทุกวันนี้ผมเปิดดูทีวี
ตั้งแต่ช่อง NBT 3 5 7 9 ThaiPBS
Nation VoiceTV Spring News ฯลฯ
ช่องไหนรายการน่าสนใจก็ดู
รายการไหนไม่น่าสนใจก็ไม่ดู

บางทีเห็นเค้าเถียงกันจะเป็นจะตาย

ตัวหนังสือมันจะเพิ่มพลังจากการอ่านไปอีกหลายเท่า
จากที่ด่าธรรมดา ๆ
คนมาอ่านจะเพิ่มความแรงไปอีก
ทำให้กลายเป็นด่าที่รุนแรงมากขึ้น

สุดท้ายก็บานปลาย

ต่อให้เถียงกันไปอีกเป็นสิบ ๆ ปี
ว่าช่องไหนชนะช่องไหน ก็เถียงกันไม่จบหรอกครับ
ไม่ว่าจะเอาเรตติ้งมาวัดก็ตาม
เพราะมันมีเหตุและผล รวมทั้งปัจจัยอื่นอีกมาก

ทุกวันนี้ความเป็นอิสระในการเลือกเสพสื่ออยู่ในมือเรา
เราเลือกที่จะดู เลือกที่จะฟัง
แต่ก็ไม่ควรยึดติด

เพราะผู้ประกาศก็ไม่เคยยึดติด
ตื่นมาผมก็เปิดดูเรื่องเล่าเช้านี้
เที่ยงดูข่าวเที่ยงช่อง 7
ตอนเย็นเปิดดูข่าวช่อง 7 สลับกับช่อง 3 5 9
ค่ำหน่อยก็เปิดไปดูเนชั่น
รอดูสะเก็ดข่าว กับเก็บตก
ดึกหน่อยมาเปิดข่าวข้นคนข่าว
ปิดท้ายข่าว 3 มิติ

ผมก็ยังเชื่อในฐานะสื่อมวลชนว่า
แก่นแท้ของการเสนอข่าว
ทุกช่องต่างก็ต้องการนำเสนอข่าวที่มีคุณภาพ
ต้องการนำเสนอรายการที่ดี
คนที่ได้กำไรที่สุดก็คือคนดู

อยากเห็นการติที่สร้างสรรค์
มากกว่าการใช้คำว่า "เพลีย" "ห่วย" "สิ้นคิด"
สังคมไทยจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกว่านี้มาก
ถ้าเราติเพื่อก่อ มากกว่าติเพื่อด่า

ผมรักทุกคนนะครับ
และขออภัยด้วยถ้าเห็นต่างจากผม

ด้วยความเคารพครับ ^^